วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553

กลยุทธ์การผลิต


คุณภาพของสินค้าหรือบริการเกิดจาก
 "วิธีการผลิต" หรือ "การปฏิบัติการ" เป็นสำคัญ


กลยุทธ์ในการผลิต (Production Strategy) หรือกลยุทธ์ในการปฏิบัติการ (Operation Strategy) จึงเป็น "หัวใจ" ของความอยู่รอดด้วย

ธุรกิจอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จึงให้ความสำคัญกับ "เป้าหมาย QCD" เป็นอย่างมาก อันได้แก่


"การผลิตสินค้าหรือการให้บริการที่มีคุณภาพ (High Quality) ด้วยต้นทุนที่ต่ำ (Low Cost) และเป็นไปอย่างรวดเร็วฉับไว (High Speed หรือ Delivery)"พร้อมกับการยึดมั่นใน "การสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า" (Customer Satisfaction) เป็นหลักชัย

ดังนั้น กลยุทธ์ในการบริหารการผลิตที่สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน จึงต้องสอดคล้องและสามารถเสริม "จุดแข็ง" ของเราได้มากที่สุด และสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างยืดหยุ่นทันกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วด้วย

แต่เรื่องของ "กลยุทธ์" จะเป็นเรื่องของ "การวางแผนระยะยาว" ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมต่างๆ มายมายในองค์กร การวางแผน กลยุทธ์หรือการกำหนดกลยุทธ์จึงต้องอาศัย "ข้อมูล" จากแหล่งต่างๆ มากมาย

เราจะต้องเกาะติดสถานการณ์และข่าวสารข้อมูลจากภายนอกองค์กร อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เพื่อจะได้รู้ถึง "แนวโน้ม" หรือทิศทางของเศรษฐกิจ และมองเห็น "โอกาส" ใหม่ๆ สำหรับกิจการของเรา

และจะต้องตรวจสอบเพื่อประเมินจุดแข็งและจุดอ่อนของกิจการเสมอ เพื่อหาวิธีปรับเสริมจุดแข็งและตัดลดจุดอ่อน เพื่อการรับมือกับการแข่งขันในตลาด

การกำหนด "กลยุทธ์ของการผลิต ในปี ค.ศ. 2001" จึงต้องพิจารณาถึง "ปัจจัยสำคัญ" ต่างๆ ดังต่อไปนี้


ปัจจัยประการแรก ได้แก่ พันธมิตรทางธุรกิจ หรือความเป็นเจ้าของกิจการที่เกี่ยวเนื่อง
- เราสั่งซื้อวัตถุดิบจากใคร และผลิตสินค้าให้ใครบ้าง เรามีความสัมพันธ์ กับผู้ส่งมอบวัตถุดินที่ส่งมอบให้เราเป็นทอดๆ มากน้อยเพียงใด เรามีส่วนร่วม (หรือเป็นหุ้นส่วนเจ้าของ) ในบริษัทที่ส่งมอบวัตถุดิบหรือไม่ สายสัมพันธ์ของเรากับผู้ส่งมอบและลูกค้ายาวนานเพียงใดแล้ว เราสามารถควบคุมเวลาส่งมอบจากซัปพลายเออร์ได้หรือไม่ นโยบายการจัดซื้อจัดหาวัตถุดิบของเราเป็นอย่างไรเราจะผลิตเองหรือจะซื้อจากภายนอก สัญญาซื้อขายวัตถุดิบทำกันสั้นยาวอย่างไร หรือเปิดประมูลซื้อขายทุกครั้ง

 ปัจจัยประการที่สอง ได้แก่ ทำเลที่ตั้งอยู่รวมศูนย์หรือกระจัดกระจาย

- ที่ตั้งของโรงงานโกดัง และสำนักงานมีจำนวนมากน้อยเพียงใด อยู่รวมกันที่เดียวหรืออยู่แยกห่างจากกันไกลเพียงใด การติดต่อสื่อสารระหว่างกัน และวิธีการแบ่งวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปลำบากหรือไม่ และมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด

ปัจจัยประการที่สาม ได้แก่ โครงสร้างขององค์กร


- ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานหรือฝ่ายต่างๆ ในองค์กรเป็นอย่างไร หน้าที่และความรับผิดชอบของฝ่ายและระดับต่างๆ ชัดเจนหรือไม่ ลำดับขั้นการบังคับบัญชาหรือการควบคุมดูแลเป็นไปอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพเพียงใด การจัดทำแผนหรือตารางการผลิตมาจากส่วนกลาง (ระดับบน) เพียงอย่างเดียวหรือต่างคนต่างจัดทำแผนกันเอง มีการทำงานร่วมกันเป็นทีมหรือไม่ วิธีการบริหารจัดการเป็นอย่างไร

ปัจจัยประการที่สี่ ได้แก่ การบริหารบุคลากร
- แนวทางในการบริหารและพัฒนาบุคลากรมีความชัดเจนและเป็นระบบ หรือไม่ (ตั้งแต่การพัฒนาทักษะความชำนาญการฝึกอบรมสัมนา หลักเกณฑ์ในการคัดเลือกบุคลากรเข้าทำงานหลักประกันความมั่นคง นโยบายด้านสวัสดิการ หลักเกณฑ์การจ่ายผลตอบแทนหรือเงินเดือน มาตรการจูงใจเป็นกรณีพิเศษ เป็นต้น)

ปัจจัยประการที่ห้า ได้แก่ เทคโนโลยีการผลิต เครื่องจักร อุปกรณ์ และกระบวนการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตและเครื่องจักรเป็นประเภทที่ใช้งานทั่วไปหรือใช้งานเฉพาะเจาะจง เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย กำลังการผลิตของเราเพียงพอและมีประสิทธิภาพสูง หรือไม่ เราสามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต และเครื่องจักรอุปกรณ์ที่ทำงานด้วยมือเป็นระบบอัตโนมัติได้ยากง่ายเพียงใดบ้าง

ปัจจัยประการที่หก ได้แก่ ระบบข้อมูลข่าวสาร
- ข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นในการบริหารจัดการด้านการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพมีอะไรบ้าง (เช่น การติดตามงานในระหว่างการผลิต การจัดซื้อจัดจ้าง จำนวนวัตถุดิบหรือ สินค้าคงคลัง คุณภาพ บุคลากร เป็นต้น) เรามีวิธีการได้มาหรือจัดเก็บข้อมูลที่ทันสมัยได้อย่างไร การรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การกระจายหรือแจกจ่ายข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีประสิทธิภาพเพียงใด

ปัจจัยประการที่เจ็ด ได้แก่ การควบคุมคุณภาพและการปรับปรุงให้ดีขึ้น
- วิธีการควบคุมคุณภาพสินค้าหรือการให้บริการทำกันอย่างไรในปัจจุบัน ใช้วิธีการควบคุมที่ต้นทาง (แหล่งกำเนิดคุณภาพ) หรือใช้วิธีตรวจสอบที่ปลายทาง หรือตรวจสอบระหว่างที่มีการผลิตเลย เรามีนโยบายการบริหารจัดการคุณภาพที่ชัดเจนหรือไม่ วิธีที่ทำกันอยู่นั้นเน้นการป้องกันหรือการแก้ไข เรามีมาตรการในการจูงใจ ให้เกิดการปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือไม่อย่างไรบ้าง

ปัจจัยประการที่แปด ได้แก่ จุดแข็งขององค์กร


- เรามีจุดแข็งที่ได้เปรียบคู่แข่งอะไรบ้าง จุดแข็งนั้นเป็นที่ทราบกันดีในหมู่ลูกค้าหรือไม่ (เช่นคุณภาพ) จุดแข็งที่มีอยู่จะนำพาองค์กรไปสู่ความเป็นเลิศระดับสากลได้มากน้อยเพียงใด เรามีวิธีการพัฒนาหรือเสริมเพิ่มจุดแข็งอย่างไรบ้าง
 ปัจจัยทั้ง 8 ประการข้างต้นนี้ ถือเป็นปัจจัยที่เราจะต้องนำมา พิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อจะได้วิเคราะห์ถึง[b]จุดแข็ง-จุดอ่อน-โอกาส-อันตราย" (SWOT Analysis)[/b]ด้านการผลิตขององค์กรเราได้อย่างถูกต้องชัดเจน เพื่อจะได้กำหนด "กลยุทธ์การผลิตในปี 2001" ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพต่อไป การวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ และการกำหนดกลยุทธ์การผลิตจะยากง่ายหรือซับซ้อนเพียงใดนั้น จะขึ้นอยู่กับขนาดองค์กรเป็นสำคัญ ในเรื่องของการกำหนด "กลยุทธ์การผลิต" นี้จะช่วยทำให้เราสามารถสร้างจุดแข็งหรือความได้เปรียบเหนือคู่แข่งได้ ดังนั้น เราควรจะอาศัยกลยุทธ์ขององค์กรอื่นๆ เป็นพื้นฐานหรือแนวคิดเท่านั้น เราไม่ควรจะคัดลอกหรือนำมาประกาศใช้โดยไม่ผ่านการวิเคราะห์แบบ SWOT Analysis และปัจจัยต่างๆ ข้างต้นเสียก่อน

เรื่องนี้เราจะต้องยึดหลักการที่ว่า "กิจการต่างกัน กลยุทธ์ต้องต่างกัน"

 ที่มา www.chiangkong.com:8080/chiangkong/readArticle.do?id...


VDO